ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ตามรอยบุพเพสันนิวาส ไปเที่ยววัดดังจังหวัดอยุธยา

อยุธยา

          ตามรอยละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ไปเที่ยววัดต่าง ๆ ในอยุธยา ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และยังคงมีความสวยงาม น่าเที่ยวชม เหมาะแก่การพาคนในครอบครัวไปเที่ยวในวันหยุด 

          บุพเพสันนิวาส กระแสเขาแรงดีไม่มีตกจริง ๆ ค่ะ นอกจากคนดูจะติดกันงอมแงมแล้ว บรรดาสถานที่ถ่ายทำและสถานที่ที่เกี่ยวข้องในละครเรื่องนี้ต่างก็ได้รับความนิยมไปด้วย อย่างวัดไชยวัฒนาราม ก็แทบแตกในช่วงวันหยุด มีนักท่องเที่ยวมากมายแต่งชุดไทยไปเที่ยวกันอย่างเนืองแน่น อ๊ะ ๆ ใช่ว่าจะมีเพียงแค่วัดไชยวัฒนารามเท่านั้นนะคะที่สำคัญในละครเรื่องนี้ ยังมีอีกหลายวัดที่ถูกพูดถึงค่ะ เราไปดูกันดีกว่าว่ามีวัดไหนให้ได้ไปตามรอยบ้าง

1. วัดไชยวัฒนาราม
 
อยุธยา

อยุธยา

อยุธยา

อยุธยา

          วัดไชยวัฒนาราม เป็นสถานที่สำคัญที่ถูกกล่าวถึงหลายครั้งในละครเรื่องบุพเพสันนิวาส และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากสำคัญที่เกศสุรางค์และเรืองฤทธิ์ได้มาสำรวจทางโบราณคดีที่นี่ แล้วพบเจอกับวิญญาณของการะเกด ก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุและสลับวิญญาณกัน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องเลยก็ว่าได้ 

          ปัจจุบันวัดไชยวัฒนารามตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทางด้านตะวันตกของเกาะเมืองเก่าอยุธยา เป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง หรือสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 5 แห่งอาณาจักรอยุธยาโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2173 ซึ่งเป็นที่อยู่ที่สุดท้ายก่อนสิ้นพระชนม์ของพระราชมารดาของสมเด็จพระเจ้าปราสาททองในช่วงที่ยังไม่เสวยราชสมบัติ เมื่อพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์แล้ว จึงโปรดให้สร้างวัดไชยวัฒนารามนี้ขึ้น เพื่ออุทิศผลบุญให้แก่พระราชมารดา สถาปัตยกรรมของวัดไชยวัฒนาราม จะมีรูปแบบคล้ายกับศิลปะขอม คือมีพระปรางค์ประธานอยู่ตรงกลาง และมีปรางค์บริวารอยู่รายล้อม บางตำราจึงกล่าวกันว่าพระเจ้าปราสาททองสร้างที่นี่ขึ้นก็เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเขมร 

          สิ่งที่โดดเด่นในวัดไชยวัฒนาราม อาทิ พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ, ระเบียงคต, พระอุโบสถ ภาพปูนปั้น เป็นต้น ด้วยความที่มีความสมบูรณ์แบบในแง่ประวัติศาสตร์ที่นี่จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี พ.ศ. 2534 รวมกับสถานที่สำคัญอื่น ๆ ในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา 

          การเข้าเที่ยวชม วัดไชยวัฒนาราม สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-16.00 น. และจะมีการส่องไฟไปยังโบราณสถานทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.30 น. 

2. วัดพุทไธศวรรย์ 

อยุธยา

อยุธยา

อยุธยา

อยุธยา

อยุธยา

          วัดพุทไธศวรรย์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่ถูกกล่าวถึงในละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ตามเนื้อเรื่องที่นี่จะเป็นสถานที่ฝึกดาบและอาคมของลูกศิษย์ท่านอาจารย์ชีปะขาว และการถ่ายทำฉากที่เกศสุรางค์หลุดผ่านม่านมนตร์เข้ามายังด้านในสถานที่ฝึกดาบอาคมนั้นก็ถ่ายทำกันที่วัดแห่งนี้ด้วย

          วัดพุทไธศวรรย์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทางด้านทิศตะวันตกของเกาะเมืองเก่าอยุธยา ที่ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นสถานที่ตั้งพลับพลาที่ประทับเมื่อครั้งที่ทรงอพยพมาอยู่กรุงศรีอยุธยาในช่วงก่อนที่จะมีการสถาปนากรุงศรีอยุธยา ตรงกับ พ.ศ. 1896 รวมมีอายุกว่า 665 ปี 

          สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดพุทไธศวรรย์ อาทิ พระมหาธาตุ, พระระเบียง, พระพุทธรูปรอบพระระเบียง, วิหารพระพุทไธศวรรย์ (วิหารพระนอน), พระอุโบสถ, ตำหนักพระพุทธโฆษาจารย์, พระอนุสาวรีย์กษัตริย์ 3 พระองค์, จิตรกรรมฝาผนัง เป็นต้น สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น 

3. วัดพระราม

อยุธยา

อยุธยา

          วัดพระราม ได้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในละครเรื่องบุพเพสันนิวาส โดยฉากสำคัญที่เกี่ยวข้องกับวัดนี้จะอยู่ตอนที่ขุนศรีวิสารวาจา (หมื่นสุนทรเทวา) พาเกศสุรางค์ไปเที่ยวชมงานแข่งเรือ และก่อกองทรายกันที่วัดพระราม 

          วัดพระราม ตั้งอยู่ใจกลางเกาะเมืองเก่าอยุธยา ใกล้กับสวนสาธารณะพระราม เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีความสวยงามมาก ๆ ของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระราเมศวร ราวปี พ.ศ. 1912 พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดนี้ในบริเวณที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) พระราชบิดา มีพื้นที่กว้างขวางใหญ่โตโอ่อ่า โดดเด่นด้วยพระปรางค์ตามแบบสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนต้นซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากเขมร และมีบึงน้ำกว้างใหญ่อยู่หน้าวัด หรือที่เรียกกันว่าบึงพระราม นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเที่ยวชมที่นี่ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. 

4. วัดพนัญเชิงวรวิหาร

อยุธยา
ภาพจาก martinho Smart / Shutterstock.com

          วัดพนัญเชิงวรวิหาร จะถูกเอ่ยถึงให้เป็นสถานที่นัดหมายกันของขุนศรีวิสารวาจา ขุนเรืองอภัยภักดี และหลวงสรศักดิ์ ในตอนที่จะไปเผาทำลายคลังสินค้าของอังกฤษ 

          วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สันนิษฐานว่าสร้างโดยพระเจ้าสายน้ำผึ้ง ก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยาถึง 26 ปี และยังได้พระราชทานนามว่า วัดเจ้าพระนางเชิง สิ่งที่น่าสนใจของวัดแห่งนี้และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกก็คือ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อโต มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ ศิลปะสมัยอู่ทองตอนปลาย ขนาดหน้าตัก 14.20 เมตร สูง 19.20 เมตร ประดิษฐานสง่างามอยู่ภายในพระอุโบสถ ชาวไทยเชื้อสายจีนจะเรียกกันว่า ซำปอกง 

          นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ พระพุทธรูปปูนปั้น 3 องค์ภายในพระอุโบสถ, พระวิหารเขียน, พระวิหารหลวง, ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก เป็นต้น วัดพนัญเชิงวรวิหารเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. 
 
5. วัดใหญ่ชัยมงคล 

อยุธยา

          วัดใหญ่ชัยมงคล เป็นอีกหนึ่งวัดที่สำคัญในสมัยอยุธยา และแน่นอนว่าในเรื่องบุพเพสันนิวาสวัดนี้ก็ต้องพูดถึงอยู่บ้าง ซึ่งตามเนื้อเรื่องนั้นวัดใหญ่ชัยมงคลจะถูกพูดถึงว่าเป็นสถานที่เล่าเรียนหนังสือของลูกบ่าวกับออกญาโหราธิบดี  

          วัดใหญ่ชัยมงคล ก็เป็นอีกหนึ่งวัดดังของอยุธยา ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติที่ไปเที่ยวอยุธยาหากไม่ได้ไปเยือนวัดใหญ่ชัยมงคลก็เหมือนไปไม่ถึงอยุธยา วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น ช่วงสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 มีการกล่าวกันว่าพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขุดศพเจ้าแก้วซึ่งทิวงคตด้วยอหิวาตกโรคขึ้นมาเผา แล้วโปรดให้สถาปนาเป็นพระอารามนามว่า วัดป่าแก้ว ต่อมามีคณะสงฆ์ที่ได้ไปร่ำเรียนมาจากสำนักพระวันรัตน์มหาเถร ประเทศศรีลังกา มาบวชเรียนอยู่ที่นี่ ผู้คนก็เลื่อมใสเป็นที่เลื่องลือไปทั่วอยุธยา จึงมีการตั้งอธิบดีสงฆ์นิกายนี้เป็นสมเด็จพระวันรัตน์มีตำแหน่งเป็นสังฆราชฝ่ายขวาคู่กับพระพุทธโฆษาจารย์เป็นอธิบดีสงฆ์ฝ่ายคันถธุระ มีตำแหน่งเป็นสังฆราชฝ่ายซ้าย 

          สิ่งที่โดดเด่นของวัดนี้ ก็คือ พระเจดีย์ชัยมงคล หรือพระเจดีย์ใหญ่ สันนิษฐานว่าสร้างโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในปี พ.ศ. 2135 เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงทำศึกยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชแห่งพม่าที่ตำบลหนองสาหร่าย เมืองสุพรรณบุรี จึงได้สร้างพระเจดีย์ใหญ่ขึ้นที่วัดนี้เป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ ต่อมาชาวบ้านก็เรียกวัดนี้ว่า วัดใหญ่ชัยมงคล

          นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเที่ยวชมวัดใหญ่ชัยมงคลได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ watyaichaimongkol.net 

          แต่ละวัดก็มีความสวยงามไม่แพ้กันเลยใช่ไหมคะ และยังอยู่ไม่ไกลกันด้วย สะดวกสบายในการท่องเที่ยวสำหรับทั้งคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวและไม่มีรถ ใครไม่มีรถส่วนตัวก็เช่าเหมารถตุ๊กตุ๊ก หรือมอเตอร์ไซค์ขี่ชิล ๆ กันได้ค่ะ แอดมินขอตัวไปค้นชุดไทยในตู้ก่อนนะคะ จะไปตามรอยแม่หญิงการะเกด :) 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอยุธย, unesco.orgthai.tourismthailand.orgayutthaya.go.thayutthaya.go.thayutthaya.go.thวัดใหญ่ชัยมงคลwatyaichaimongkol.net

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

20 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบไปเช้า-เย็นกลับ วันเดียวก็สนุกได้

           ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบไปเช้า-เย็นกลับ โปรแกรมเที่ยวง่าย ๆ ใช้เวลาไม่เยอะ ให้คุณได้มีช่วงเวลาที่ดีร่วมกันกับเพื่อน ครอบครัว และคนรัก            เมื่อเราพูดถึง " ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ " หลายคนอาจนึกไม่ออกว่ามีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้วใกล้กรุงเทพฯ ยังมีที่เที่ยวเจ๋ง ๆ ซ่อนอยู่อีกเพียบ ทั้งที่เที่ยวเชิงธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์ ตลาดน้ำ หรือจะเป็นกิจกรรมไหว้พระ วันนี้เราเลยไม่พลาดขอแนะนำ ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบไปเช้า-เย็นกลับ  มาฝาก เอาไว้เป็นโปรแกรมเที่ยวง่าย ๆ ที่จะควงแขนเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก มาเที่ยวสนุก ๆ ถ่ายรูปเพลิน ๆ ตลอดทั้งวัน 1.  บางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ             ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ยอดนิยมอีกแห่งหนึ่ง สถานที่ฟอกปอดที่เหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนแบบชิล ๆ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด ซึ่งภายหลังจากมีการพัฒนาให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พร้อมกับมีเส้นทางจักรยานให้ได้ไปปั่นชมธรรมชาติ ยิ่งกระตุ้นต่อมให้อยากออกไปสัมผัสบางกะเจ้ามากยิ่งขึ้น ภายในมีแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่

MENTAWAI : วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า...จนได้พบชนเผ่าโบราณ

สวัสดีครับ ช่วงนี้กระแสเข้าป่ากำลังมาแรง ผมเองก็เพิ่งออกมาจากป่ามาเหมือนกัน  แต่ไม่ได้ไปเจอนกตัวหนึ่ง หรือเสือดำ แบบที่เขากำลังฮิต ๆ กันนะครับ  รอบนี้ผมบุกเข้าไปในผืนป่าฝน บนเกาะซีเบรุท ในประเทศอินโดนีเซีย ใช้เวลาทั้งสิ้น 7 วัน ออกถ่ายภาพกันท่ามกลางสายฝน ลุยโคลน เดินฝ่าลำธาร ผจญกองทัพแมลง เพื่อเก็บภาพและเรียนรู้วิถีชีวิต กิน อยู่ กับชาวเผ่าที่กำลังจะสูญหายไปอีกกลุ่มหนึ่ง  ชาวเผ่า "เมนตาไว" นักรบแห่งพงไพร ชนเผ่าโบราณผู้อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้มาหลายพันปีโดยที่ไม่ถูกรบกวนจากกาลเวลา อุปกรณ์: - Nikon D810 - AF-S NIKKOR 16-35mm f/4G - AF-S NIKKOR 24-120mm f/4G - AF-S NIKKOR 70-200mm f/2.8G ED VR II - AF-S NIKKOR 35mm f/1.8G - Flash/Strobe : Fokon SP360 2 ตัว ชมรูปภาพอื่นๆ และติดตามผลงานได้ที่ https://www.facebook.com/jkboy.jatenipat   https://www.facebook.com/jkboyphoto/ ผมมีโอกาสได้ยินชื่อชนเผ่านี้ครั้งแรกจากเว็บไซต์ที่รวบรวมเรื่องแปลกทั่วโลก ที่เล่าถึงเรื่องราวของชนเผ่ากินคน  มนุษย์โบราณที่เหลาฟันให้แหลมคมเหมือนจระเข้ และสักตามตัวด้วยยางไม้ เลยเกิดความสนใจที่จะตามหาว่าชนเผ่านี้อย

30 สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดระยอง เมืองน่ารักที่อยากให้ไปเยือน

           สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดระยอง เหมาะแก่การไปพักผ่อนช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่ไม่ควรมองข้าม            จังหวัดระยอง เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยว เพราะตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกทั้งยังมีท้องทะเลสวย ๆ ให้ได้ไปเอาตัวแช่น้ำ มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอื่น ๆ ให้เราไปค้นหาและพักผ่อนอีกเพียบ วันนี้เราจึงได้รวบรวม  30 สถานที่ท่องเที่ยวระยอง  มาฝากกัน เป็นที่เที่ยวระยองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวย ๆ บรรยากาศดี ๆ บอกเลยว่าถ้าได้ลองไปแวะชมจะต้องฟินแน่นอน 1. ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช           ก่อนอื่นขอเชิญไปสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่บนถนนตากสิน ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมืองระยอง เป็นศาลเก่าแก่ที่มีต้นสะตือขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า สะตือต้นนี้คาดว่ามีอายุกว่า 300 ปีแล้ว และมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงนำช้างมาผูกไว้ที่ใต้ต้นสะตือนี้ เมื่อครั้งเสด็จผ่านระยองเพื่อไปรวบรวมไพร่พลและตั้งทัพเตรียมกู้อิสรภาพที่จันทบุรีนั่นเอง ภายในศาลเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงยืนพร