ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เรื่องน่ารู้ วัดพุทไธศวรรย์ สถานที่ฝึกดาบและอาคมสมัยอยุธยาจากบุพเพสันนิวาส


          พาไปทำความรู้จักกับวัดพุทไธศวรรย์ วัดโบราณอันสำคัญยิ่งในสมัยอยุธยา วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ใดในปัจจุบัน มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ไปเที่ยวชมได้วันไหนบ้าง เราค้นหาคำตอบมาไว้ให้แล้ว 

          ว่ากันว่า "วัดพุทไธศวรรย์" เป็นวัดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในสมัยอยุธยา สร้างมายาวนานกว่า 600 ปี และปัจจุบันยังคงมีความสมบูรณ์สวยงามน่าไปเที่ยวชม ในเรื่องบุพเพสันนิวาสวัดนี้่ก็มีความสำคัญ ด้วยเป็นสถานที่ฝึกดาบฝึกอาคมของลูกศิษย์อาจารย์ชีปะขาว มีการพูดถึงในหลาย ๆ ตอนของละครเรื่องนี้ วันนี้เราจึงจะพาไปทำความรู้จักกับวัดแห่งนี้ให้มากขึ้นค่ะ :)

วัดพุทไธศวรรย์

1. ที่ตั้งวัดพุทไธศวรรย์


          วัดพุทไธศวรรย์ ปัจจุบันตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาทางด้านทิศตะวันตก ที่ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิกัด : 14.339782, 100.557519 ทิศเหนือ ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ทิศใต้ ติดกับที่ของวัดตำหนัก (ร้าง) ทิศตะวันออก ติดกับโรงเรียนพุทไธศวรรย์ และทิศตะวันตก ติดกับบ้านเรือนราษฎร

วัดพุทไธศวรรย์
ภาพจาก Phongsak Meedaenphai / Shutterstock.com

2. พระราชอนุสรณ์แห่งการสถาปนากรุงศรีอยุธยา

          ตามประวัติศาสตร์กล่าวกันว่าวัดพุทไธศวรรย์เป็นวัดที่สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นสถานที่ตั้งพลับพลาที่ประทับเมื่อครั้งที่ทรงอพยพมาอยู่กรุงศรีอยุธยาในช่วงก่อนที่จะมีการสถาปนา พอหลังจากที่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ 3 ปี แล้ว ซึ่งตรงกับ พ.ศ. 1896 ก็ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดนี้เพื่อเป็นพระราชอนุสรณ์ รวมอายุแล้วจนถึงปัจจุบัน (ปี พ.ศ. 2561) ก็ 665 ปี

วัดพุทไธศวรรย์
ภาพจาก tongcom photographer / Shutterstock.com

3. วัดสำคัญยิ่งตลอดสมัยกรุงศรีอยุธยาและรัตนโกสินทร์

          มีบันทึกเกี่ยวกับวัดพุทไธศวรรย์ในหลายช่วงตลอดสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งได้บอกเล่าว่าที่แห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ หรือแม้แต่เป็นสถานที่ตั้งค่าย อย่างในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ วัดพุทไธศวรรย์ ได้ถูกใช้เป็นสถานที่ตั้งทัพของพม่าในคราวที่ยกทัพมาล้อมกรุง เพื่อทำการรบกับกรุงศรีอยุธยา ส่วนในสมัยสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 ราว พ.ศ. 2243 สมเด็จกรมหลวงโยธาเทพ และสมเด็จกรมหลวงโยธาทิพ สมเด็จพระอัครมเหสีฝ่ายซ้าย และฝ่ายขวาของพระองค์ ได้ทูลลาสมเด็จพระเจ้าเสือออกจากพระราชวัง พร้อมด้วยเจ้าตรัสน้อยราชบุตร ไปตั้งนิวาสสถานอยู่ใกล้วัดพุทไธศวรรย์

          ในช่วงตอนปลายสมัยอยุธยา วัดพุทไธศวรรย์ก็ยังได้เป็นสถานที่ประกอบการเมรุสำคัญถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกในสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ปี พ.ศ. 2258 กรมหลวงโยธาทิพทิวงคต ณ ตำหนักริม วัดพุทไธศวรรย์ ก็ได้มีการสร้างพระเมรุทองขึ้นตามราชประเพณีที่วัดแห่งนี้ ครั้งที่ 2 ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ สมเด็จกรมหลวงโยธาเทพทิวงคต ณ ตำหนักริม วัดพุทไธศวรรย์ เช่นกัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศโปรดให้สร้างพระเมรุมาศขึ้นที่วัดแห่งนี้ตามโบราณราชพิธี

          ส่วนในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์มีการบันทึกอ้างถึงวัดพุทไธศวรรย์หลายครั้ง โดยในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี ก็ได้สถาปนาให้วัดนี้เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ

วัดพุทไธศวรรย์

4. พระมหาธาตุและสถานที่สำคัญภายในวัด

          สิ่งที่โดดเด่นที่สุดภายในวัดพุทไธศวรรย์ก็คือ "พระมหาธาตุ" หรือปรางค์ประธานสีขาวสะอาดตา มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบปราสาทขอม หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ตั้งอยู่บนฐานไพทีที่รองรับไปถึงมณฑปที่อยู่ทางด้านทิศเหนือและทิศใต้อีก 2 หลัง มีบันไดขึ้น 2 ทาง คือทางทิศตะวันออกและทางทิศตะวันตก

          บริเวณรอบพระปรางค์จะมีพระระเบียง ด้านนอกทึบ ด้านในมีเสารับเครื่องบนหลังคาและชายคาเป็นระยะ ๆ มีพระพุทธรูปสีทองอร่ามศิลปะแบบสุโขทัยเรียงรายอยู่อย่างสวยงาม

          วิหารพระพุทไธศวรรย์ (วิหารพระนอน) ก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรพลาดของวัดพุทไธศวรรย์ ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ในเขตพุทธาวาส ตัวอาคารนั้นปัจจุบันเหลือแต่เพียงกำแพง และองค์พระพุทธไสยาสน์ นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ พระอุโบสถ, ตำหนักพระพุทธโฆษาจารย์, พระอนุสาวรีย์กษัตริย์ 3 พระองค์, จิตรกรรมฝาผนัง เป็นต้น
 
 
วัดพุทไธศวรรย์
5. ตำนานเหล็กไหล จตุคามรามเทพ และสำนักดาบวัดพุทไธศวรรย์

          นอกจากจะเป็นวัดที่มีชื่อเสียงด้านประวัติศาสตร์อันยาวนานและสำคัญแล้ว วัดพุทไธศวรรย์ยังถูกพูดถึงในแง่ที่ว่าเป็นวัดที่มีพระพุทธรูปและเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ ด้านในอุโบสถเป็นสถานที่ประดิษฐานของ "หลวงพ่อดำ" พระพุทธรูปปูนปั้นสีดำปางมารวิชัย ลักษณะศิลปะแบบอยุธยาตอนต้น สมัยก่อนใครเจ็บป่วยก็มาขอหลวงพ่อดำให้หายเจ็บป่วย ขอบุตรก็จะได้บุตร และยังมีการเล่าขานกันว่าอดีตวัดแห่งนี้เป็นสถานที่ฝึกอาวุธยุทโธปกรณ์ของทหารก่อนที่จะออกศึกสงคราม จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ด้านอยู่ยงคงกระพัน

          โดยเฉพาะในช่วงสมัยที่พระพุทไธศวรรย์วรคุณ หรือหลวงพ่อหวล ภูริภัทโท เป็นเจ้าอาวาส ก็ได้ทำพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลเหล็กไหล ใครรับไปบูชาก็รอดพ้นจากอันตราย ไม่มีใครทำร้ายได้

          ส่วนองค์ท่านพ่อจตุคามรามเทพที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัดนั้น มีลักษณะเป็นรูปหล่อขนาดหน้าตัก 29 นิ้ว ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้ขอพรกันในช่วงวันหยุด
 
6. การเข้าเที่ยวชมวัดพุทไธศวรรย์ 

          สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าเที่ยวชมวัดพุทไธศวรรย์ สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

วัดพุทไธศวรรย์
 
7. เส้นทางการไปวัดพุทไธศวรรย์ 

          จากกรุงเทพฯ ขึ้นทางด่วนปากเกร็ด-บางปะอิน ไปลงที่เชียงรากน้อยบรรจบกับถนนทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 หรือถนนกาญจนาภิเษก ขับตรงไปอีกนิดเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 347 ตรงไปจนถึงสี่แยกวรเชษฐ์ เลี้ยวขวามาทางอยุธยาพาวิเลียน ตรงไปจนเจอไฟแดงแรก เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 3469 ตรงไปอย่างเดียวจะมีป้ายบอกตลลอดทาง

          ส่วนใครไม่มีรถยนต์ส่วนตัว สามารถนั่งรถตู้โดยสารประจำทางไปลงได้ที่ตัวเมืองอยุธยา แล้วเช่าเหมารถตุ๊กตุ๊ก หรือสองแถวไปยังวัดพุทไธศวรรย์ หรือถ้าขี่รถมอเตอร์ไซค์ได้ ก็เช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่เที่ยวรอบ ๆ กรุงเก่าอยุธยาก็ได้ค่ะ

          หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอยุธยา โทรศัพท์ 0 3524 6076

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอยุธยา, ททท.putthaijatukam.comwatboran,

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

20 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบไปเช้า-เย็นกลับ วันเดียวก็สนุกได้

           ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบไปเช้า-เย็นกลับ โปรแกรมเที่ยวง่าย ๆ ใช้เวลาไม่เยอะ ให้คุณได้มีช่วงเวลาที่ดีร่วมกันกับเพื่อน ครอบครัว และคนรัก            เมื่อเราพูดถึง " ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ " หลายคนอาจนึกไม่ออกว่ามีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้วใกล้กรุงเทพฯ ยังมีที่เที่ยวเจ๋ง ๆ ซ่อนอยู่อีกเพียบ ทั้งที่เที่ยวเชิงธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์ ตลาดน้ำ หรือจะเป็นกิจกรรมไหว้พระ วันนี้เราเลยไม่พลาดขอแนะนำ ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบไปเช้า-เย็นกลับ  มาฝาก เอาไว้เป็นโปรแกรมเที่ยวง่าย ๆ ที่จะควงแขนเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก มาเที่ยวสนุก ๆ ถ่ายรูปเพลิน ๆ ตลอดทั้งวัน 1.  บางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ             ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ยอดนิยมอีกแห่งหนึ่ง สถานที่ฟอกปอดที่เหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนแบบชิล ๆ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด ซึ่งภายหลังจากมีการพัฒนาให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พร้อมกับมีเส้นทางจักรยานให้ได้ไปปั่นชมธรรมชาติ ยิ่งกระตุ้นต่อมให้อยากออกไปสัมผัสบางกะเจ้ามากยิ่งขึ้น ภายในมีแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่

MENTAWAI : วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า...จนได้พบชนเผ่าโบราณ

สวัสดีครับ ช่วงนี้กระแสเข้าป่ากำลังมาแรง ผมเองก็เพิ่งออกมาจากป่ามาเหมือนกัน  แต่ไม่ได้ไปเจอนกตัวหนึ่ง หรือเสือดำ แบบที่เขากำลังฮิต ๆ กันนะครับ  รอบนี้ผมบุกเข้าไปในผืนป่าฝน บนเกาะซีเบรุท ในประเทศอินโดนีเซีย ใช้เวลาทั้งสิ้น 7 วัน ออกถ่ายภาพกันท่ามกลางสายฝน ลุยโคลน เดินฝ่าลำธาร ผจญกองทัพแมลง เพื่อเก็บภาพและเรียนรู้วิถีชีวิต กิน อยู่ กับชาวเผ่าที่กำลังจะสูญหายไปอีกกลุ่มหนึ่ง  ชาวเผ่า "เมนตาไว" นักรบแห่งพงไพร ชนเผ่าโบราณผู้อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้มาหลายพันปีโดยที่ไม่ถูกรบกวนจากกาลเวลา อุปกรณ์: - Nikon D810 - AF-S NIKKOR 16-35mm f/4G - AF-S NIKKOR 24-120mm f/4G - AF-S NIKKOR 70-200mm f/2.8G ED VR II - AF-S NIKKOR 35mm f/1.8G - Flash/Strobe : Fokon SP360 2 ตัว ชมรูปภาพอื่นๆ และติดตามผลงานได้ที่ https://www.facebook.com/jkboy.jatenipat   https://www.facebook.com/jkboyphoto/ ผมมีโอกาสได้ยินชื่อชนเผ่านี้ครั้งแรกจากเว็บไซต์ที่รวบรวมเรื่องแปลกทั่วโลก ที่เล่าถึงเรื่องราวของชนเผ่ากินคน  มนุษย์โบราณที่เหลาฟันให้แหลมคมเหมือนจระเข้ และสักตามตัวด้วยยางไม้ เลยเกิดความสนใจที่จะตามหาว่าชนเผ่านี้อย

30 สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดระยอง เมืองน่ารักที่อยากให้ไปเยือน

           สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดระยอง เหมาะแก่การไปพักผ่อนช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่ไม่ควรมองข้าม            จังหวัดระยอง เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยว เพราะตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกทั้งยังมีท้องทะเลสวย ๆ ให้ได้ไปเอาตัวแช่น้ำ มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอื่น ๆ ให้เราไปค้นหาและพักผ่อนอีกเพียบ วันนี้เราจึงได้รวบรวม  30 สถานที่ท่องเที่ยวระยอง  มาฝากกัน เป็นที่เที่ยวระยองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวย ๆ บรรยากาศดี ๆ บอกเลยว่าถ้าได้ลองไปแวะชมจะต้องฟินแน่นอน 1. ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช           ก่อนอื่นขอเชิญไปสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่บนถนนตากสิน ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมืองระยอง เป็นศาลเก่าแก่ที่มีต้นสะตือขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า สะตือต้นนี้คาดว่ามีอายุกว่า 300 ปีแล้ว และมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงนำช้างมาผูกไว้ที่ใต้ต้นสะตือนี้ เมื่อครั้งเสด็จผ่านระยองเพื่อไปรวบรวมไพร่พลและตั้งทัพเตรียมกู้อิสรภาพที่จันทบุรีนั่นเอง ภายในศาลเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงยืนพร