ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

วัดไชยวัฒนาราม เรื่องน่ารู้วัดโบราณสมัยอยุธยา

วัดไชยวัฒนาราม

          วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กับเรื่องราวน่ารู้ทั้งประวัติศาสตร์และเกร็ดท่องเที่ยวเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปเที่ยวได้วันไหนบ้าง มีค่าเข้าชมเท่าไร ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวไปเที่ยวได้ไหม เราค้นหาคำตอบมาให้แล้ว
          จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดที่มีแหล่งโบราณสถานสำคัญและสวยงามให้ได้ไปเที่ยวมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ "วัดไชยวัฒนาราม" วัดโบราณที่สร้างมามากกว่า 300 ปี ปัจจุบันยังคงสวยงามและน่าไปเที่ยวชมมาก ๆ หากใครกำลังจะเดินทางไปเที่ยวที่นี่หรืออยากรู้จักกับวัดนี้ให้มากขึ้น วันนี้เราเอาเรื่องราวน่ารู้ของวัดไชยวัฒนารามมาฝากกันด้วยค่ะ บอกเลยว่าวัดนี้น่าสนใจและมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ไทยไม่ใช่เล่นเลยล่ะ

วัดไชยวัฒนาราม
          1. วัดไชยวัฒนาราม ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทางด้านตะวันตกของเกาะเมือง

          2. วัดไชยวัฒนาราม เป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง หรือสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 5 แห่งอาณาจักรอยุธยาโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2173 รวมอายุจนถึงปัจจุบันก็ 388 ปี มีพื้นที่กว้าง 160 เมตร ยาว 310 เมตร หันหน้าไปทางทิศตะวันออก

          3. เดิมพื้นที่วัดไชยวัฒนาราม เป็นที่อยู่ที่สุดท้ายก่อนสิ้นพระชนม์ของพระราชมารดาของสมเด็จพระเจ้าปราสาททองในช่วงที่ยังไม่เสวยราชสมบัติ เมื่อพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์แล้ว จึงได้โปรดให้สร้างวัดไชยวัฒนารามนี้ขึ้น เพื่ออุทิศผลบุญให้แก่พระราชมารดา

วัดไชยวัฒนาราม

          4. สถาปัตยกรรมของวัดไชยวัฒนาราม จะมีรูปแบบคล้ายกับศิลปะขอม คือมีพระปรางค์ประธานอยู่ตรงกลาง และมีปรางค์บริวารอยู่รายล้อม มีการกล่าวกันว่าพระเจ้าปราสาททองสร้างที่นี่ขึ้นก็เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเขมรด้วยเช่นกัน 

          5. วัดไชยวัฒนาราม ถือได้ว่าเป็นวัดสำคัญของสมัยอยุธยา เป็นสถานที่บำเพ็ญพระราชกุศลของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์หลังจากสมัยของพระเจ้าปราสาททอง และยังเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระศพพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ หนึ่งในนั้นก็คือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ หรือพระมหาธรรมราชา และยังเป็นสถานที่ฝังศพของกวีเอกสมัยอยุธยาตอนปลาย คือ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (เจ้าฟ้ากุ้ง) พระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศและกรมหลวงอภัยนุชิตด้วย

วัดไชยวัฒนาราม

          6. 
สิ่งที่โดดเด่นมากที่สุดในวัดวัดไชยวัฒนาราม คือ "พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ" ปรางค์ประธานที่ตั้งอยู่บริเวณกลางวัดพอดี มีลักษณะเป็นปรางค์จัตรุมุข อยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่มุมฐานทั้ง 4 ด้านก็มีปรางค์ประจำทิศอยู่ทั้งสี่มุม ยอดปรางค์ทำเป็นรัดประคดซ้อน 7 ชั้น ส่วนบนสุดเป็นทรงดอกบัวตูม ลักษณะคล้ายกับปรางค์ในสมัยอยุธยาตอนต้น 

วัดไชยวัฒนาราม

          7. อีกสิ่งที่ห้ามพลาดก็คือ "ระเบียงคต" เป็นส่วนที่เชื่อมต่อเมรุ (อาคารทรงยอดแหลมที่อยู่รายรอบพระปรางค์ประธานทั้ง 8 หลัง) ทั้ง 4 ทิศเข้าด้วยกัน โดยที่ระเบียงคตนี้จะมีพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยเก่าแก่ตั้งอยู่มากกว่า 100 องค์ เป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นแบบโบราณอายุเป็นร้อย ๆ ปี ปัจจุบันโดนตัดเศียรไปเกือบหมดแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ภายในวัดวัดไชยวัฒนารามอีก เช่น พระอุโบสถ และภาพปูนปั้น  

วัดไชยวัฒนาราม

          8. วัดไชยวัฒนาราม ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี พ.ศ. 2534

          9. ด้วยความที่วัดไชยวัฒนารามเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ที่สำคัญของประเทศไทย และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวที่เข้าชมต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ห้ามปีนป่ายขึ้นโบราณสถาน ห้ามหยิบหรือเก็บโบราณวัตถุกลับบ้าน ห้ามสัมผัสในจุดที่มีการแจ้งเตือน เพราะอาจจะเป็นจุดที่บอบบางจนเกิดความเสียหายได้ง่าย เพื่อให้เราได้มีสถานที่อันทรงคุณค่านี้ไว้ให้ลูกหลานได้ชมสืบไป

          10. การเข้าเที่ยวชม วัดไชยวัฒนาราม สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-16.00 น. และจะมีการส่องไฟไปยังโบราณสถานทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 18.30 น. เป็นต้นไป

วัดไชยวัฒนาราม

          11. ค่าธรรมเนียมเข้าเยี่ยมชมวัดไชยวัฒนาราม สำหรับชาวไทย ผู้ใหญ่ 10 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าชมฟรี ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าชมฟรี

วัดไชยวัฒนาราม
ภาพจาก google.co.th
          12. การเดินทางไปยังวัดไชยวัฒนาราม จากกรุงเทพฯ สามารถใช้เส้นทางทางพิเศษอุดรรัถยาไปลงบางปะอิน เข้าสู่ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 หรือถนนกาญจนาภิเษก แล้วเตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 347 ตรงไปจนถึงทางแยกเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3263 หรือสี่แยกวรเชษฐ์ เลี้ยวขวาไปตามถนน 3263 เรื่อย ๆ จนถึงแยกบ้านป้อม จะเห็นป้ายให้กลับรถใต้สะพานไปวัดไชยวัฒนาราม พอกลับรถมาแล้ว จะมีทางแยกด้านซ้ายมือ ป้ายเขียนว่าไปวัดไชยวัฒนาราม ตรงไปจนสุดทางจะเจอวัดไชยวัฒนารามอยู่ด้านซ้ายมือ

          13. การเดินทางมาวัดวัดไชยวัฒนารามถ้าไม่มีรถยนต์ส่วนตัว นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถตู้โดยสารหรือรถไฟไปลงในเมืองอยุธยา จากนั้นเช่าเหมารถตุ๊กตุ๊ก ให้ไปส่งที่วัดไชยวัฒนาราม หรือจะเช่ารถจักรยานยนต์ขี่เที่ยวรอบ ๆ อยุธยาก็ได้ 

          หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ 0 3524 2286 หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอยุธยา โทรศัพท์ 0 3524 6076

          หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะทำให้คุณเที่ยวชมวัดไชยวัฒนารามได้สนุกมากขึ้นนะคะ ใครยังไม่มีแผนไปเที่ยวที่ไหนในช่วงวันหยุด การไปเดินชมโบราณสถานในเมืองเก่าอย่างอยุธยาก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ ได้ทั้งถ่ายรูปสวย ๆ ชิล ๆ และได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทยอีกด้วย คุ้มเกินคุ้ม :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
unesco.orgTat Ayutthayaอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาwatboran

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

20 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบไปเช้า-เย็นกลับ วันเดียวก็สนุกได้

           ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบไปเช้า-เย็นกลับ โปรแกรมเที่ยวง่าย ๆ ใช้เวลาไม่เยอะ ให้คุณได้มีช่วงเวลาที่ดีร่วมกันกับเพื่อน ครอบครัว และคนรัก            เมื่อเราพูดถึง " ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ " หลายคนอาจนึกไม่ออกว่ามีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้วใกล้กรุงเทพฯ ยังมีที่เที่ยวเจ๋ง ๆ ซ่อนอยู่อีกเพียบ ทั้งที่เที่ยวเชิงธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์ ตลาดน้ำ หรือจะเป็นกิจกรรมไหว้พระ วันนี้เราเลยไม่พลาดขอแนะนำ ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบไปเช้า-เย็นกลับ  มาฝาก เอาไว้เป็นโปรแกรมเที่ยวง่าย ๆ ที่จะควงแขนเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก มาเที่ยวสนุก ๆ ถ่ายรูปเพลิน ๆ ตลอดทั้งวัน 1.  บางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ             ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ยอดนิยมอีกแห่งหนึ่ง สถานที่ฟอกปอดที่เหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนแบบชิล ๆ พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด ซึ่งภายหลังจากมีการพัฒนาให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พร้อมกับมีเส้นทางจักรยานให้ได้ไปปั่นชมธรรมชาติ ยิ่งกระตุ้นต่อมให้อยากออกไปสัมผัสบางกะเจ้ามากยิ่งขึ้น ภายในมีแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่

MENTAWAI : วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า...จนได้พบชนเผ่าโบราณ

สวัสดีครับ ช่วงนี้กระแสเข้าป่ากำลังมาแรง ผมเองก็เพิ่งออกมาจากป่ามาเหมือนกัน  แต่ไม่ได้ไปเจอนกตัวหนึ่ง หรือเสือดำ แบบที่เขากำลังฮิต ๆ กันนะครับ  รอบนี้ผมบุกเข้าไปในผืนป่าฝน บนเกาะซีเบรุท ในประเทศอินโดนีเซีย ใช้เวลาทั้งสิ้น 7 วัน ออกถ่ายภาพกันท่ามกลางสายฝน ลุยโคลน เดินฝ่าลำธาร ผจญกองทัพแมลง เพื่อเก็บภาพและเรียนรู้วิถีชีวิต กิน อยู่ กับชาวเผ่าที่กำลังจะสูญหายไปอีกกลุ่มหนึ่ง  ชาวเผ่า "เมนตาไว" นักรบแห่งพงไพร ชนเผ่าโบราณผู้อาศัยอยู่ในป่าแห่งนี้มาหลายพันปีโดยที่ไม่ถูกรบกวนจากกาลเวลา อุปกรณ์: - Nikon D810 - AF-S NIKKOR 16-35mm f/4G - AF-S NIKKOR 24-120mm f/4G - AF-S NIKKOR 70-200mm f/2.8G ED VR II - AF-S NIKKOR 35mm f/1.8G - Flash/Strobe : Fokon SP360 2 ตัว ชมรูปภาพอื่นๆ และติดตามผลงานได้ที่ https://www.facebook.com/jkboy.jatenipat   https://www.facebook.com/jkboyphoto/ ผมมีโอกาสได้ยินชื่อชนเผ่านี้ครั้งแรกจากเว็บไซต์ที่รวบรวมเรื่องแปลกทั่วโลก ที่เล่าถึงเรื่องราวของชนเผ่ากินคน  มนุษย์โบราณที่เหลาฟันให้แหลมคมเหมือนจระเข้ และสักตามตัวด้วยยางไม้ เลยเกิดความสนใจที่จะตามหาว่าชนเผ่านี้อย

30 สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดระยอง เมืองน่ารักที่อยากให้ไปเยือน

           สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดระยอง เหมาะแก่การไปพักผ่อนช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เป็นที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่ไม่ควรมองข้าม            จังหวัดระยอง เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของนักท่องเที่ยว เพราะตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกทั้งยังมีท้องทะเลสวย ๆ ให้ได้ไปเอาตัวแช่น้ำ มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอื่น ๆ ให้เราไปค้นหาและพักผ่อนอีกเพียบ วันนี้เราจึงได้รวบรวม  30 สถานที่ท่องเที่ยวระยอง  มาฝากกัน เป็นที่เที่ยวระยองที่เต็มไปด้วยธรรมชาติสวย ๆ บรรยากาศดี ๆ บอกเลยว่าถ้าได้ลองไปแวะชมจะต้องฟินแน่นอน 1. ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช           ก่อนอื่นขอเชิญไปสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่บนถนนตากสิน ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมืองระยอง เป็นศาลเก่าแก่ที่มีต้นสะตือขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า สะตือต้นนี้คาดว่ามีอายุกว่า 300 ปีแล้ว และมีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงนำช้างมาผูกไว้ที่ใต้ต้นสะตือนี้ เมื่อครั้งเสด็จผ่านระยองเพื่อไปรวบรวมไพร่พลและตั้งทัพเตรียมกู้อิสรภาพที่จันทบุรีนั่นเอง ภายในศาลเป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงยืนพร